ทรัมป์กดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ย ตลาดผันผวนเพิ่มความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันจันทร์ (21 เมษายน) ได้วิพากษ์วิจารณ์ธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างรุนแรงอีกครั้ง โดยเรียกร้องให้ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยในทันที และตำหนิที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ มีปฏิกิริยาช้าซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เกิดปัญหา ทรัมป์ได้โพสต์บนแพลตฟอร์มสื่อโซเชียล "Truth Social" โดยระบุว่า แม้ความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อจะลดลงแล้ว แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเกิดขึ้น เตือนว่าหากพาวเวลล์ไม่ดำเนินการทันที สหรัฐฯ จะต้องจ่ายราคาแพง คำพูดดังกล่าวเป็นครั้งที่ 16 ที่ทรัมป์ออกมากดดันธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างเปิดเผย ทำให้เกิดความสนใจอย่างกว้างขวางบนวอลล์สตรีทและตลาดสั่นคลอน การเผชิญหน้าระหว่างประธานาธิบดีและธนาคารกลางครั้งนี้ก่อให้เกิดความกังวลอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับทิศทางอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ รัฐบาลทรัมป์เชื่อว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วจะช่วยบรรเทาผลกระทบเชิงลบจากนโยบายภาษีศุลกากร และหลีกเลี่ยงการลงจอดทางเศรษฐกิจที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกำหนดนโยบายของเฟดกังวลว่าภาษีจะทำให้อัตราเงินเฟ้อฟื้นตัว มองว่าการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อขึ้นไปถึง 4% หรือมากกว่า ดังนั้น ธนาคารกลางมักจะไปในแนวทางที่ระมัดระวังเพื่อสังเกตสภาวะเพิ่มเติม ออสติน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโก ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า “เราต้องประเมินภาพรวมของการส่งผลกระทบที่เกิดจากภาษีต่อห่วงโซ่อุปทานอย่างละเอียด การลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ยาวนานมากขึ้น” เขาเน้นย้ำว่าธนาคารกลางจะต้องระมัดระวังในทุกการตัดสินใจก่อนลงมือ คำพูดที่หนักแน่นของทรัมป์ทำให้ตลาดการเงินเกิดความผันผวน ในวันเดียวกัน ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 2% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มสูงขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดย่อลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบสามเดือน ข้อมูลล่าสุดจากสถาบัน World Institute for Policy Studies มาแสดงว่าภาคการผลิตอ่อนตัวพร้อมกับตลาดหุ้นที่ลดลงก่อให้เกิดแรงกดดันสองด้าน ส่งผลให้เศรษฐศาสตร์คาดการณ์ถึงโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอยเพิ่มขึ้นเป็น 35% เมื่อประชุมปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ การเผชิญหน้าระหว่างทรัมป์และเฟดเรื่อง "การปรับลดอัตราดอกเบี้ย" กำลังกลายเป็นวิกฤติใหญ่ในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ การที่ทรัมป์ท้าทายต่ออิสรภาพของธนาคารกลาง อาจไม่เพียงแต่เป็นการคุกคามเสถียรภาพในตลาดหนี้รัฐบาลมูลค่า 23 ล้านล้านดอลลาร์ อีกทั้งอาจเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกที่มีต่อระบบการเงินของสหรัฐฯ ภายใต้แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อและการชะลอตัวของเศรษฐกิจ การตัดสินใจของเฟดแต่ละครั้งจะส่งผลกระทบลึกซึ้งต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะกับชะตาของเศรษฐกิจในปี 2024 ตลาดมีความเสี่ยง และการลงทุนควรทำด้วยความระมัดระวัง บทความนี้ไม่ได้เป็นคำแนะนำการลงทุนส่วนบุคคล และไม่ได้คำนึงถึงเป้าหมายการลงทุน สถานการณ์ทางการเงิน หรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ ผู้ใช้ควรพิจารณาว่าความคิดเห็น มุมมอง หรือข้อสรุปในบทความนี้เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนหรือไม่ การลงทุนจากข้อมูลนี้ถือเป็นความรับผิดชอบส่วนตัวคำเตือนความเสี่ยงและข้อจำกัดความรับผิดชอบ
-
ก่อนหน้า
-
ต่อไป
- เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้
- การอ่านแบบสุ่ม
-
- 巴尔的摩大桥倒塌:最大汽车港口停摆,重建费用数十亿,八千人就业受影响
- 美联储理事“不急”四连击,到底还会不会降息?
- 网易暴雪再牵手?游戏板块何时才能回春
- 娃哈哈10万股股份竞价转让落锤,半年来多次被拍卖
- ตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเนื่องจากการผ่อนคลายภาษี
- 恒大暴雷最新动态:资不抵债将强制清盘,恒大回应将积极配合
- 库克透露苹果头显产品Vision Pro将在年内登录中国市场
- 对交易的感悟和经验分享!
- 日本央行利率政策:实现2%通胀后考虑战略性利率调整
- 安联推出16亿美元基金,掀起私人信贷投资新浪潮
- ตลาดหุ้นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เปิดตลาดสูงขึ้น ดัชนีนิกเคอิ 225 เพิ่มขึ้น 0.5%
- 对交易的感悟和经验分享!
- 宝剑锋从磨砺出, 梅花香自苦寒来
- กระแสการลงทุนจากต่างชาติกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นญี่ปุ่น
- 新车发布后,赛力斯为什么逆市连续下跌?
- 1月10日复盘:不破不立,周四或有剧变
- 【2024.5.7每日早盘】
- 特斯拉“硬性要求”交付前体验FSD,强制推广全自动驾驶意欲为何
- 费城联储报告称BLS公布的就业数据存在严重失真,非农就业“新增”80万个
- 财经主播小羊炮轰宋宇飞把粉丝当猪仔,怒斥“能不能把他抓起来”
- ค้นหา
-
- ลิงค์ที่เป็นมิตร